พระบูชา ยุคทวารวดี 1" หลังอุ กรุวัดพระแก้ว กำแพงเพชร

พระบูชา ยุคทวารวดี 1" หลังอุ กรุวัดพระแก้ว กำแพงเพชร ขนาด 4.30 x 6.40 เซนติเมตร ความหนา 1.50 เซนติเมตร

 กรุวัดพระแก้วเป็นหนึ่งในแหล่งโบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดกำแพงเพชร ตั้งอยู่ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร และเป็นสถานที่ที่มีการค้นพบพระพุทธรูปและวัตถุโบราณที่มีคุณค่า โดยเฉพาะ พระบูชา และ พระพิมพ์ยุคทวารวดี ซึ่งมีลักษณะและความสำคัญดังนี้:

ที่มาและความสำคัญของพระบูชายุคทวารวดี
1. ลักษณะทางศิลปกรรม:
ศิลปะทวารวดี: เป็นศิลปะที่ได้รับอิทธิพลจากอินเดียแบบคุปตะและปาละ ผ่านเส้นทางการค้าทางทะเลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ลักษณะเด่นของพระบูชา:พระพักตร์เรียบง่าย แสดงความสงบสุขุม
มี รัศมีเปลวไฟ หรือ วงกลมหลังเศียร ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของพระยุคทวารวดี
ฐานของพระมักเป็นฐานบัวหรือฐานรูปทรงสี่เหลี่ยมที่เรียบง่าย
วัสดุ: พระบูชายุคทวารวดีที่พบจากกรุวัดพระแก้วส่วนใหญ่ทำจากดินเผา หินทราย และสำริด
2. กรุวัดพระแก้ว:
วัดพระแก้วในกำแพงเพชรเป็นศูนย์กลางพุทธศาสนาในยุคสุโขทัย-อยุธยา และเป็นสถานที่ที่มีการบรรจุพระบูชาและพระพิมพ์จำนวนมากในกรุใต้ดิน
พระบูชายุคทวารวดีในกรุนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า กำแพงเพชรมีบทบาทสำคัญในฐานะเมืองหน้าด่านและศูนย์กลางพุทธศาสนาในสมัยโบราณ
3. การค้นพบพระบูชาในกรุ:
พระบูชาและพระพิมพ์ในกรุวัดพระแก้วถูกค้นพบระหว่างการสำรวจโบราณสถานในช่วงต้นพุทธศตวรรษที่ 25
พระพุทธรูปบางองค์พบในสภาพสมบูรณ์ ในขณะที่บางองค์มีการชำรุด แต่ยังคงเห็นความงดงามของศิลปะดั้งเดิม

ความสำคัญของพระบูชายุคทวารวดีจากกรุวัดพระแก้ว
1. หลักฐานทางพุทธศาสนา:
พระบูชาที่ค้นพบแสดงให้เห็นถึงการเผยแผ่พุทธศาสนาในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะ พุทธศาสนานิกายเถรวาท ที่เจริญรุ่งเรืองในยุคทวารวดี
2. คุณค่าทางศิลปกรรม:
พระบูชายุคทวารวดีมีความงดงามในเชิงศิลปะที่สะท้อนถึงความศรัทธาในพระพุทธศาสนา
การออกแบบที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยความหมาย สื่อถึงอิทธิพลทางวัฒนธรรมระหว่างอินเดียและไทยในยุคโบราณ
3. ความสำคัญทางประวัติศาสตร์:
การค้นพบพระบูชาจากกรุวัดพระแก้วช่วยยืนยันถึงบทบาทของเมืองกำแพงเพชรในฐานะ ส่วนหนึ่งของอาณาจักรสุโขทัยและอยุธยา ที่เชื่อมต่อกับศิลปะและวัฒนธรรมของยุคทวารวดี
4. เชิงมงคลและพุทธคุณ:
พระบูชายุคทวารวดีถือว่าเป็นพระที่มี พุทธคุณสูง ในด้านความสงบ ความเจริญรุ่งเรือง และการคุ้มครองจากภัยอันตราย

ความหมายของ อุ
1. ในทางพุทธศาสนา:
"อุ" เป็นตัวอักษรที่มาจาก "อะ อุ มะ" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระรัตนตรัย (พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์)
สื่อถึงความสมบูรณ์แบบและเป็นการบ่งบอกถึง "แก่นแท้ของพระธรรม" หรือสิ่งสูงสุดในศาสนา
2. ในพระเครื่อง:
การแกะลวดลาย "อุ" ด้านหลังพระพิมพ์มีความหมายถึงการปกป้องคุ้มครองและเสริมสร้างสิริมงคล
สื่อถึงการป้องกันภัยอันตรายและความเจริญรุ่งเรืองของผู้ที่บูชา
3. ในด้านไสยศาสตร์:
"อุ" ถือเป็น หัวใจของมนต์ หรือหัวใจของคาถาศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในพิธีกรรม
มักถูกใช้เพื่อเพิ่มพลังมงคลในวัตถุมงคลหรือพระเครื่อง

พุทธคุณของพระบูชายุคทวารวดีจากกรุวัดพระแก้ว กำแพงเพชร
พระบูชายุคทวารวดีจากกรุวัดพระแก้วมีความศักดิ์สิทธิ์และพุทธคุณสูง เนื่องจากถูกสร้างขึ้นในบริบทของความศรัทธาอันแรงกล้าในพระพุทธศาสนาและเพื่อการปกป้องบ้านเมืองในยุคโบราณ พุทธคุณของพระองค์นี้สามารถแบ่งออกเป็นด้านต่าง ๆ ได้ดังนี้:

1. พุทธคุณด้านปกป้องคุ้มครอง
ป้องกันภยันตราย: พระพุทธรูปยุคทวารวดีมักถูกสร้างขึ้นเพื่อปกป้องผู้คนในชุมชนและเมืองจากอันตรายทั้งปวง เช่น ศึกสงคราม โรคภัยไข้เจ็บ และภัยธรรมชาติ
ขจัดอุปสรรค: เชื่อว่าผู้ที่บูชาจะได้รับการคุ้มครองจากสิ่งชั่วร้ายและอุปสรรคในชีวิต
คุ้มครองบ้านเรือน: การประดิษฐานพระบูชาในบ้านจะช่วยเสริมสิริมงคลและป้องกันภัยต่าง ๆ

2. พุทธคุณด้านเมตตามหานิยม
เมตตามหานิยม: พระยุคทวารวดีมักมีลักษณะที่แสดงถึงความสง่างามและความสงบ ซึ่งช่วยเสริมด้านเมตตามหานิยม ทำให้คนรักใคร่และช่วยเหลือ
เสริมความสัมพันธ์ที่ดี: การบูชาพระองค์นี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว การงาน หรือสังคม

3. พุทธคุณด้านความเจริญรุ่งเรือง
ความสำเร็จในชีวิต: ด้วยความเชื่อในพลังศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปยุคทวารวดี พระองค์จะช่วยเสริมดวงชะตาให้ผู้บูชาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและชีวิต
โชคลาภ: เป็นที่เชื่อกันว่าพระบูชาเหล่านี้ช่วยเสริมด้านโชคลาภ ความมั่งคั่ง และความอุดมสมบูรณ์

4. พุทธคุณด้านจิตใจ
สงบจิตใจ: พระพุทธรูปยุคทวารวดีเน้นความสงบนิ่งและสง่างาม ซึ่งช่วยส่งเสริมให้ผู้บูชามีสมาธิและจิตใจสงบ
การเจริญภาวนา: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบำเพ็ญสมาธิ หรือปฏิบัติธรรมเพื่อพัฒนาจิตวิญญาณ

บทสวดมนต์สำหรับการบูชา
การสวดมนต์เป็นการแสดงความเคารพบูชาและเชื่อมโยงกับพุทธคุณของพระพุทธรูป พระบูชายุคทวารวดีจากกรุวัดพระแก้วสามารถใช้บทสวดมนต์ที่เหมาะสม ดังนี้:

1. บทบูชาพระรัตนตรัย (บทพื้นฐาน)
อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ ภะคะวา
พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ
(กราบ 1 ครั้ง)

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม
ธัมมัง นะมัสสามิ
(กราบ 1 ครั้ง)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ
สังฆัง นะมามิ
(กราบ 1 ครั้ง)

2. บทอิติปิโส
 อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู
อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ
สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ

3. บทพุทธคุณสำหรับเสริมพุทธคุณของพระ
 พุทโธ เม นาโถ ธัมโม เม นาโถ
สังโฆ เม นาโถ
พุทธัง ชีวิตัง ธัมมัง ชีวิตัง
สังฆัง ชีวิตัง
นิพพานัง ชีวิตัง
พุทธะ ธัมมะ สังฆะ นิพพานัง
เม ชีวิตัง อโรคะยัง สุขัง ภะวันตุ เมฯ

4. บทเมตตามหานิยม
 เมตตัญจะ สัพพะโลกัสสมิง
มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง
อุจจะราโห จะ มัชชันตัง
สัตตัง สัมภาวะเย อะปะริมาณัง

วิธีการบูชาพระบูชา
จัดโต๊ะบูชา:
ประดิษฐานพระบูชาในที่สูงกว่าศีรษะผู้บูชา
ตั้งเครื่องบูชา เช่น ธูป 3 ดอก เทียน 1 คู่ ดอกไม้ (เช่น ดอกบัว)
จุดธูปและเทียน:
เริ่มต้นด้วยการตั้งจิตให้สงบและแสดงความเคารพ
สวดมนต์:
ใช้บทสวดที่แนะนำด้านบน หรือบทสวดที่คุณสะดวก
อธิษฐานขอพรในสิ่งที่ต้องการ เช่น ความสงบสุข ความสำเร็จ หรือปกป้องคุ้มครอง
กราบไหว้ 3 ครั้ง:
แสดงความเคารพอย่างเต็มใจและจริงใจ