พระพุทธชินราช เนื้อโลหะประดับพลอย กรุวัดบ่อทองคำ พิษณุโลก

พระพุทธชินราช เนื้อโลหะประดับพลอย กรุวัดบ่อทองคำ พิษณุโลก ขนาด 2.70 x 4.60 เซนติเมตร ความหนา 0.80 เซนติเมตร

พระพุทธชินราช เนื้อโลหะประดับพลอย กรุวัดบ่อทองคำ จังหวัดพิษณุโลก เป็นพระพิมพ์ที่มีเอกลักษณ์และความสำคัญในวงการพระเครื่อง โดยเฉพาะในด้านพุทธศิลป์และคุณค่าทางประวัติศาสตร์ รายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับพระพิมพ์นี้มีดังนี้:

1. ประวัติความเป็นมา
ยุคสมัยการสร้าง:
พระพิมพ์นี้คาดว่าสร้างขึ้นในช่วง กรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ซึ่งเป็นยุคที่ศิลปะและวัฒนธรรมไทยมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก โดยเฉพาะในด้านพุทธศิลป์
สถานที่พบ:
พระพิมพ์นี้ถูกค้นพบใน กรุวัดบ่อทองคำ ซึ่งตั้งอยู่ในตำบลหัวรอ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ในปี พ.ศ. 2553 ระหว่างการขุดปรับปรุงพื้นที่บริเวณข้างวิหารหลวงพ่อทองคำ
ลักษณะการบรรจุ:
พระพิมพ์เหล่านี้ถูกบรรจุในภาชนะดินเผาโบราณใต้ฐานวิหาร มีจำนวนมาก และอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ บ่งบอกถึงการตั้งใจเก็บรักษาเพื่อปกป้องจากภัยสงครามหรือเพื่อการสืบทอดศาสนาในยุคต่อไป

2. ลักษณะของพระพุทธชินราช เนื้อโลหะประดับพลอย
เนื้อโลหะ:
พระพิมพ์ทำจาก ทองคำผสม หรือ เนื้อโลหะสัมฤทธิ์ ซึ่งมีส่วนผสมของทองคำ ทองแดง และแร่ศักดิ์สิทธิ์ในสัดส่วนที่เหมาะสม
การประดับพลอย:
พระพิมพ์นี้มีความพิเศษด้วยการ ฝังอัญมณี เช่น พลอยแดง (ทับทิม), พลอยเขียว (มรกต) หรือพลอยน้ำเงิน (ไพลิน) ลงในองค์พระหรือฐานพระ เพื่อเพิ่มความสวยงามและพลังศักดิ์สิทธิ์
พุทธลักษณะ:องค์พระพุทธรูปเป็น ปางมารวิชัย ซึ่งเป็นปางสำคัญของพระพุทธชินราช
มีลวดลายวิจิตรบนฐานและรอบองค์พระ บ่งบอกถึงฝีมือช่างที่มีความเชี่ยวชาญในศิลปะอยุธยา
ขนาด:
ขนาดขององค์พระมักไม่ใหญ่มาก อยู่ในขนาดที่พกพาสะดวก เช่น สูงประมาณ 3-5 เซนติเมตร

3. ความสำคัญและวัตถุประสงค์ในการสร้าง
ถวายเป็นพุทธบูชา:
พระพุทธชินราช เนื้อโลหะประดับพลอย ถูกสร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระพุทธเจ้า โดยมีการใช้วัสดุมีค่าเพื่อสะท้อนถึงความศรัทธาและการสักการะอย่างสูงสุด
เสริมสิริมงคลและปกป้องชุมชน:
การฝังอัญมณีในองค์พระเชื่อว่าจะช่วยเสริมพลังศักดิ์สิทธิ์ เพิ่มเมตตามหานิยม และป้องกันภัยอันตรายให้กับผู้ครอบครอง
เก็บรักษาในกรุเพื่ออนาคต:
พระพิมพ์เหล่านี้ถูกบรรจุในกรุเพื่อให้ชนรุ่นหลังได้พบเจอ และสืบทอดศรัทธาในพระพุทธศาสนา

4. การค้นพบและความนิยมในวงการพระเครื่อง
การค้นพบในปี พ.ศ. 2553:
การค้นพบพระพิมพ์จำนวนมากในกรุวัดบ่อทองคำทำให้พระพิมพ์นี้กลายเป็นที่รู้จักในวงการพระเครื่องอย่างกว้างขวาง
ความหายาก:
พระพิมพ์เนื้อโลหะประดับพลอยถือเป็นลักษณะพิเศษที่พบได้น้อยมากในพระเครื่องกรุอื่น ทำให้เป็นที่ต้องการของนักสะสม
มูลค่าทางประวัติศาสตร์:
นอกจากความงดงามแล้ว พระพิมพ์นี้ยังมีคุณค่าในฐานะหลักฐานทางศิลปะและวัฒนธรรมของอยุธยา

6. การดูแลรักษา
พระพิมพ์ที่มีการประดับอัญมณีต้องการการดูแลอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงความชื้นหรือสารเคมีที่อาจทำลายเนื้อโลหะและอัญมณี
การเก็บรักษาควรเก็บในกล่องที่บุด้วยผ้านุ่ม และหลีกเลี่ยงการกระแทกที่อาจทำให้อัญมณีหลุดออก

พระพุทธชินราช เนื้อโลหะประดับพลอย ถือเป็นวัตถุมงคลที่มีพุทธคุณสูงและได้รับการยกย่องในวงการพระเครื่อง โดยมีพุทธคุณเฉพาะที่เชื่อถือกันมายาวนาน ดังนี้:

1. เมตตามหานิยม
ส่งเสริมเสน่ห์ เมตตา ทำให้เป็นที่รักใคร่ในหมู่คนรอบข้าง
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในสังคม การเจรจาธุรกิจ หรือการทำงานที่ต้องติดต่อผู้คน

2. โชคลาภและความมั่งคั่ง
การประดับอัญมณี เช่น ทับทิม ไพลิน หรือมรกต เชื่อว่าจะเสริมพลังแห่งโชคลาภและดึงดูดทรัพย์สินเงินทอง
เหมาะสำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพค้าขาย การลงทุน หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเงิน

3. แคล้วคลาดปลอดภัย
ป้องกันอันตรายจากศัตรู ภัยพิบัติ หรืออุบัติเหตุ
เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อย หรือผู้ที่ต้องเผชิญกับสถานการณ์เสี่ยงภัย

4. ป้องกันคุณไสยและสิ่งชั่วร้าย
พลังจากการปลุกเสกและการประดับอัญมณีในองค์พระช่วยป้องกันคุณไสย มนต์ดำ และสิ่งชั่วร้าย
สร้างเกราะป้องกันทางจิตวิญญาณและขจัดพลังงานลบ

5. เสริมบารมีและความมั่นใจ
เพิ่มความสง่างามและพลังอำนาจในตัวผู้บูชา
เหมาะสำหรับผู้นำหรือผู้ที่ต้องการสร้างความน่าเชื่อถือในสายตาผู้อื่น

6. เสริมสุขภาพจิตและความสงบ
การบูชาพระพุทธชินราชช่วยสร้างความสงบในจิตใจ เสริมสมาธิ และความมั่นคงทางอารมณ์
เหมาะสำหรับผู้ที่ปฏิบัติธรรม หรือต้องการเสริมพลังด้านจิตใจ

7. พลังอัญมณี
พลอยแต่ละสีที่ฝังในองค์พระมีความหมายและพลังเฉพาะตัว:ทับทิม (สีแดง): เสริมพลังแห่งความมั่นใจและความกล้าหาญ
มรกต (สีเขียว): เสริมสุขภาพและความสงบ
ไพลิน (สีน้ำเงิน): เสริมสติปัญญาและความสำเร็จ
บุษราคัม (สีเหลือง): เสริมโชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง

บทสวดมนต์ที่เหมาะสมสำหรับการบูชา
การบูชาพระพุทธชินราชควรเริ่มด้วยการตั้งจิตให้สงบ อธิษฐานในสิ่งที่ดีงาม และสวดบทสวดมนต์ดังนี้:

1. บทบูชาพระพุทธชินราช (นิยมใช้บูชาเฉพาะ)
ตั้งนะโม 3 จบ

กาเยนะ วาจายะ จะ เจตสา วา
อะหัง วันทา พุทธะชินะราชา
สิริสัมปันโน มะหาลาโภ มะหาเตโช มะหาปัญโญ
ชินะราชา พุทธะปฏิมัง อะหัง วันทามิ สัพพะทา

2. บทสวดอิติปิโส (แบบย่อ)
อิติปิ โส ภะคะวา
อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ
วิชชาจะระณะสัมปันโน
สุคะโต โลกะวิทู
อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ
สัตถา เทวะมะนุสสานัง
พุทโธ ภะคะวาติ

3. บทสวดแผ่เมตตา
หลังสวดบทบูชาพระพุทธชินราช ควรแผ่เมตตาเพื่อเสริมพลังบุญและความสงบในจิตใจ:

สัพเพ สัตตา สุขิตา โหนตุ
สัพเพ สัตตา นิรทุกขา โหนตุ
สัพเพ สัตตา นิรภะยา โหนตุ
สัพเพ สัตตา อะนีฆา โหนตุ

วิธีบูชา
จัดโต๊ะบูชาด้วยดอกไม้หอม เช่น ดอกบัว และธูป 5 ดอก
ถวายของบูชา เช่น ผลไม้ ข้าว หรือเครื่องหอม (สามารถใช้พลอยหรือหินมงคลเพิ่มเติมเพื่อเสริมพลังได้)
ตั้งจิตสงบ นั่งสมาธิ และกล่าวบทสวดมนต์ตามลำดับ
อธิษฐานขอพรในสิ่งที่ดีงาม โดยเน้นความเมตตา โชคลาภ และความสงบสุข