SKU : YT_EP381-5
YouTube Ep.381-5 - พระซุ้มกอ พิมพ์เล็ก ไม่ตัดขอบ กรุทุ่งเศรษฐี กำแพงเพชร
หมวดหมู่ : สินค้าทั้งหมด ,  พิเศษจาก YouTube Sukjai Antique , 
Share
พระซุ้มกอ พิมพ์เล็ก ไม่ตัดขอบ กรุทุ่งเศรษฐี กำแพงเพชร ขนาด 2.00 x 2.50 เซนติเมตร ความหนา 7 มิลลิเมตร
พระซุ้มกอ เป็นหนึ่งในพระเครื่องที่มีชื่อเสียงในหมวด "พระเครื่องเบญจภาคี" ซึ่งได้รับความนิยมสูงในวงการพระเครื่องไทย เนื่องจากพุทธคุณที่เลื่องลือและความงดงามในเชิงศิลปะโบราณ มีลักษณะเด่นด้านพุทธคุณดังนี้:
พุทธคุณของพระซุ้มกอ
1. เมตตามหานิยม: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมเสน่ห์และความเมตตาจากผู้คนรอบข้าง เช่น ในเรื่องการเจรจา ค้าขาย หรือสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในสังคม
2. โชคลาภและความร่ำรวย: ด้วยคำว่า "ทุ่งเศรษฐี" ที่สื่อถึงสถานที่ค้นพบพระเครื่อง ทำให้เชื่อว่ามีพุทธคุณในด้านการเสริมความมั่งคั่ง ความสำเร็จ และความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต
3. แคล้วคลาดและคุ้มครอง: พระซุ้มกอเป็นที่เชื่อกันว่ามีพลังปกป้องคุ้มครองจากภัยอันตรายต่าง ๆ ให้ผู้ที่บูชาอยู่อย่างปลอดภัย
จุดเด่นของพระซุ้มกอ
1. ศิลปะและเอกลักษณ์: มีรูปทรงโค้งคล้ายซุ้มประตู มีพิมพ์ "มีกนก" ที่เพิ่มความงดงามในเชิงศิลปะ
2. พุทธศิลป์สมัยสุโขทัย: สื่อถึงความละเอียดและประณีตในงานแกะสลักพระพุทธรูปในยุคนั้น
3. ความเก่าแก่: อายุการสร้างนับร้อยปี ยิ่งเพิ่มมูลค่าและความศักดิ์สิทธิ์ในสายตาของผู้สะสม
การบูชาพระซุ้มกอ ควรเน้นการตั้งจิตภาวนา และรักษาศีล 5 เป็นพื้นฐาน เพื่อเสริมให้พุทธคุณแสดงผลได้เต็มที่
พระซุ้มกอแบบ ตัดขอบ และ ไม่ตัดขอบ มีความแตกต่างกันในหลายด้าน ทั้งในแง่ของ กระบวนการสร้าง รูปลักษณ์ ความนิยม และมูลค่าเชิงสะสม ซึ่งสามารถแยกแยะได้ดังนี้:
1. กระบวนการสร้าง
พระซุ้มกอแบบตัดขอบ:
เกิดจากการกดพิมพ์พระแล้วมีการ ตัดขอบ หรือเจียระไนขอบองค์พระให้เรียบร้อย เพื่อให้มีลักษณะสมมาตร สวยงาม เหมาะสมสำหรับการบูชา
ขอบของพระมักจะมีความเรียบร้อยและเห็นรอยตัดชัดเจน แสดงถึงความใส่ใจในกระบวนการสร้างพระ
พระซุ้มกอแบบไม่ตัดขอบ:
เกิดจากการกดพิมพ์พระแล้วไม่ได้ผ่านกระบวนการตัดแต่งขอบ อาจเป็นเพราะต้องเร่งสร้างจำนวนมากเพื่อบรรจุกรุ หรือเป็นพระที่สร้างไว้ใช้งานแบบเรียบง่าย
ขอบพระมักจะไม่เรียบ มีเนื้อดินส่วนเกินหรือรอยจากแม่พิมพ์ที่ยังไม่ได้ถูกตกแต่งออก
2. ลักษณะทางกายภาพ
แบบตัดขอบ:
ขอบจะเรียบร้อย มีความคมชัด และได้รูปทรงที่สมมาตร
พุทธลักษณะดูโดดเด่นและเป็นระเบียบมากกว่า
แบบไม่ตัดขอบ:
ขอบมักมีลักษณะไม่สมบูรณ์ อาจดูหนาและไม่เป็นระเบียบ เนื่องจากไม่ได้ผ่านการเจียระไนหรือขัดแต่ง
บางองค์อาจดูดิบ ๆ หรือมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สะท้อนถึงกระบวนการผลิตดั้งเดิม
3. ความนิยมในเชิงสะสม
แบบตัดขอบ:
ได้รับความนิยมสูงกว่าในกลุ่มนักสะสมทั่วไป เพราะมีความสวยงาม เรียบร้อย และดูมีความประณีต
นิยมในเชิงการจัดเข้าชุดเบญจภาคี หรือการนำไปเลี่ยมเพื่อบูชา
แบบไม่ตัดขอบ:
ได้รับความนิยมเฉพาะในกลุ่มนักสะสมที่เน้นความดั้งเดิมหรือศึกษากระบวนการสร้างพระในยุคโบราณ
ถือเป็นพระที่มีเอกลักษณ์และหายากในเชิงของการสะสมแบบ "สภาพดิบ" หรือ "ดั้งเดิม"
4. มูลค่าในตลาดพระเครื่อง
แบบตัดขอบ:
มักมีมูลค่าสูงกว่าแบบไม่ตัดขอบ เนื่องจากเป็นที่นิยมในวงกว้าง และมองว่าเป็นพระที่สร้างมาอย่างสมบูรณ์
ราคาจะพิจารณาจากพิมพ์ ความสมบูรณ์ขององค์พระ และประวัติของกรุ
แบบไม่ตัดขอบ:
มูลค่าอาจต่ำกว่าในตลาดทั่วไป แต่สำหรับนักสะสมเฉพาะกลุ่ม พระแบบไม่ตัดขอบบางองค์ที่มาจากกรุสำคัญ หรือมีลักษณะพิมพ์ที่หายาก อาจมีมูลค่าสูงได้
มักเป็นที่ต้องการของผู้ที่ชื่นชอบพระในลักษณะดั้งเดิม
5. พุทธคุณ
ทั้งแบบตัดขอบและไม่ตัดขอบมีพุทธคุณเหมือนกัน เพราะได้รับการปลุกเสกในพิธีกรรมเดียวกัน พลังงานศักดิ์สิทธิ์และพุทธคุณไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปลักษณ์ภายนอก แต่ขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้สร้างและพิธีปลุกเสก
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นแบบตัดขอบหรือไม่ตัดขอบ หากผ่านพิธีปลุกเสกที่ถูกต้อง ย่อมมีพุทธคุณในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด และโชคลาภเหมือนกัน
6. ความหมายเชิงประวัติศาสตร์
แบบตัดขอบ: แสดงถึงความตั้งใจของผู้สร้างในการทำให้พระดูสมบูรณ์และสวยงาม เหมาะสำหรับการบูชาและเผยแพร่
แบบไม่ตัดขอบ: สะท้อนถึงความเร่งด่วนหรือการผลิตในจำนวนมากเพื่อใช้ในพิธีกรรมใหญ่หรือบรรจุกรุ